Article  :  Political   :  Forum  :  Facebook  :  Youtube

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

กบฏไพร่ กบฏชาวนาในสยาม-ไทย (90)

"กบฏผีบุญ นายศิลา วงศ์สิน"
กบฏสุดท้ายก่อนยุคคอมมิวนิสต์ (2)

จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้นำคณะทหารและนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหารยึดอำนาจการปกครอง แม้จะไม่ได้อยู่ในอำนาจนานที่สุด แต่เป็นหนึ่งในผู้ที่ใช้อำนาจเผด็จการอย่างถึงที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย

เรื่องราวในเชิงประวัติศาสตร์นอกตำราของเหตุการณ์ "กบฏผีบุญ นายศิลา วงศ์สิน" จากบล็อกเกอร์ http://hello-siam.blogspot.com/2008/03/2502.html บรรยายต่อไป ซึ่งดูจะเป็นจุดยืนด้านเดียวของฝ่ายอำนาจรัฐ ที่เห็นประชาชนเป็นเพียง "ราษฎรผู้ถูกปกครอง" มากกว่า "พลเมือง" หรือ "ประชาชนในระบอบประชาธิปไตย" ซึ่งเป็น "แว่นสี" ที่เห็นการเคลื่อนไหวของราษฎรสามัญไกลปืนเที่ยงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจาก "กบฏชาวนา" หรือ "กบฏไพร่"

เช้าวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 นายเลิศ พุกกะรัตน์ นายอำเภอโชคชัย พร้อมคณะที่มีเพียงอาวุธปืนประจำกายจำนวนหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วย ร้อยตำรวจเอกประเสริฐ สุนทรเสรี ผู้บังคับกองตำรวจโชคชัย, นายเทพ หาญณรงค์ ปลัดอำเภอโชคชัย, นายหวล แก่นกระโทก ป่าไม้อำเภอ, นายฉ่ำ สุขกระโทก ผู้ใหญ่บ้าน, นายผ่อง เกณฑ์กระโทก ครูใหญ่โรงเรียนประชาบาล และชาวบ้านอีกสามคนจากอำเภอโชคชัย จึงเดินเข้าไปหารายละเอียดจากข่าวสารที่ได้รับ

เมื่อไปถึงพื้นที่หมู่บ้านใหม่ไทยเจริญที่นายศิลาประกาศเป็นอาณาจักรเป็นเวลาใกล้เที่ยง ในการบรรยายของข้อเขียนที่ค้นมาข้างต้น เขียนถึงความทารุณโหดร้ายของฝ่ายประชาชนฝ่ายก่อการในข้อหากบฏ และแนวทางการดำเนินการของรัฐบาล "ปฏิวัติ" ภายใต้การนำของ "จอมพลผ้าขาวม้าแดง" สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่มีอำนาจตามธรรมนูญการปกครองแผ่นดินชั่วคราว มาตรา 17 อย่างเด็ดขาดที่มีนัย "ถือโอกาสตัดไม้ข่มนาม ให้ศัตรูทางการเมืองเห็น" ไว้ดังนี้
**********
จะด้วยคิดว่าคงไม่มีเหตุร้าย เพราะนั่นคือ "เจ้านาย" เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งสมัยก่อนเป็นที่ยำเกรงของชาวบ้านเป็นอันมาก หรือเพราะว่าเป็นเจตนาที่จะไม่ให้มีการระแวงกัน ดังนั้นการเข้าไปโดยปราศจากอาวุธ เพียงแค่ปืนไม่กี่กระบอก นอกนั้น ในคณะก็ไปมือเปล่า พากันไปหมู่บ้านใหม่ไทยเจริญ โชคชัยในเช้าวันนั้น

ใกล้เที่ยง คณะที่ไปจากอำเภอโชคชัยก็เข้าไปถึงหมู่บ้านป้อมค่ายของนายศิลา เห็นมีชายฉกรรจ์ในชุดเตรียมพร้อมอยู่แล้วแต่นายอำเภอได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ใจเย็นและแสดงกิริยาที่เป็นมิตรกับชาวบ้านแบบเอาน้ำเย็นเข้าลูบก่อนเข้าไปคลี่คลายเรื่องร้าย

นายอำเภอและ ร.ต.อ.ประเสริฐและเจ้าหน้าที่บางส่วน ได้ขึ้นไปบนบ้านของนายศิลา ส่วนปลัดเทพและเจ้าหน้าที่ติดตามไปบางส่วนรออยู่ด้านล่าง

ชั่วครู่ เสียงลั่นถกเถียงกันบนเรือนนายศิลาเกิดขึ้น

"นายอำภอไม่มีสิทธิเข้ามายุ่มย่ามในบ้านของฉัน คนเขารักฉัน เขาเชื่อฉันเป็นใหญ่ที่นี่"

"แต่ที่นี่เมืองไทย ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน"

"กูนี่แหละกฎหมาย ! ฆ่าพวกมัน"

สิ้นเสียงคำสั่งของนายศิลา เสียงร้องโหยหวนของคนที่ถูกทำร้ายและเสียงโห่ร้องของชาวบ้านสมุนของนายศิลาระงมไปหมด

ปลัดเทพพยายามยามที่จะขึ้นไปบนบ้านเพื่อช่วยเหลือนายอำเภอและผู้กอง แต่ชาวบ้านฮือเข้ามาไล่ฟันจนเลือดอาบ ปลัดเทพพร้อมกับชาวบ้านอีกสามคนต่างพากันวิ่งหนีกระเสือกระสนออกจากหมู่บ้านเขต อิสระที่ไม่ยอมขึ้นอยู่กับกฎหมายของประเทศไทย ต่างคนต่างได้รับบาดเจ็บเลือดท่วมตัวกันทุกคน รีบไปรวมกันแจ้งเรื่องราวทั้งหมดให้ปลัดอาวุโสของโชคชัยและคาดการณ์ว่า นายอำเภอเลิศ ผู้กองประเสริฐ นายฉ่ำ นายผ่องและนายหวลคงสิ้นชีวิตไปแล้ว

ปลัดอำเภอโชคชัยรีบรายงานให้จังหวัดนครราชสีมา ทางจังหวัดรีบรายงานให้รัฐบาลที่มากบารมีและมีอำนาจเบ็ดเสร็จ คือ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชน์ เพื่อให้จัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด นี่แหละเหตุการณ์ที่เปลี่ยนหมู่บ้านที่เคยสงบร่มเย็นกลายเป็นสมรภูมิเลือด ระหว่างผีบุญผู้หยั่งรู้และเข้าใจวิถีของชาวบ้านที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ความยากจนและความเชื่อที่หล่อเลี้ยงจิตใจให้เกิดความหวังทั้งจากชีวิตนี้และ ชีวิตหน้า เมื่อมีผู้มาให้ความหวังว่าชีวิตจะพบความสุขหากเดินตามรอยทางที่ผู้ที่เข้า ถึงจิตใจเพื่อนมนุษย์และใช้ประโยชน์จากความอ่อนแอของคนอื่น เมื่อมีการก่อตั้งเขตปกครองอิสระ ในหมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชาสีมา เหตุการณ์ที่ละม้ายคล้ายกับเกิดขึ้นภาคใต้ตอนนี้ เพียงแต่ความรุนแรงต่างกันลิบลับ

เมื่อทางบ้านเมืองได้รับรายงานเหตุการณ์ "กบถผีบุญ" ผู้หาญกล้าท้าทายอำนาจรัฐ นายพลผ้าขาวม้าแดงผู้มีอำนาจมากที่สุดเพิ่งจะยึดอำนาจของรัฐในระบอบประชาธิปไตยทั้งหมด ล้มองค์กรการปกครองหรือไม่ล้ม อันไหนที่เห็นว่าไม่ใช่พรรคพวกของตน ก็ปลดออกบ้าง ไล่ออกบ้าง หรือย้ายไปในตำแหน่งไม่สำคัญ เอาคนที่ตนสั่งการได้ รับใช้อำนาจตน เข้าไปทำหน้าที่แทนเหมือนตอนนี้ พวกที่อยากเป็นใหญ่ทางลัดหรือหาประโยชน์ใส่ตน โดยไม่คิดว่า มันถูก หรือผิด มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย อย่างบ้านเมืองเราตอนนี้เยอะหน่อย นายพลผ้าขาวม้าแดงผู้ซึ่งชิงเอาอำนาจรัฐเข้ามาไว้ในอุ้งมือของตน ครั้งที่สองหมาดๆ ถือโอกาสตัดไม้ข่มนาม ให้ศัตรูทางการเมืองเห็น

คืนนั้นได้มีคำสั่งไปถึงผู้กำกับการตำรวจภูธร ภาค 3 คือ พลตำรวจจัตวา มุข ศรีสมบูรณ์ ให้จัดการกับ "กบถผีบุญ" กลุ่มนี้อย่างรวดเร็ว ไม่เหลือไว้เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อยากประกาศตนอิสระจากอำนาจรัฐ กลุ่มอื่นๆ หรือพรรคการเมืองบางพรรค

ฝ่ายกลุ่มกบถผีบุญ ของนายศิลา ผู้ประกาศตนเป็นเจ้า หลังจัดการกับเจ้าหน้าที่จนได้ชัยชนะต่างโห่ร้องแสดงความยินดีที่มีชัยเหนือเจ้าหน้าที่ตัวแทนอำนาจรัฐ พร้อมกับยกย่องนายศิลาว่ามีบุญญาบารมีมากสามารถปกปักรักษาให้สมัครพรรคพวกของตนปลอดภัยจากการต่อสู้ และยินดีให้นายศิลานำพาพวกตนสู่การเป็นเขตอิสระ ก่อตั้งบ้านสร้างเมืองจนถึงที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้ระดมความคิดที่จะจัดการกับศพเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตทั้งหมด รวม 5 คน ด้วยการนำมารวมกันที่กลางลานบ้านเพื่อที่จะทำพิธีเผาในวันถัดไป

กองกับกับการตำรวจภูธร ภาค 3 หลังจากได้รับคำสั่งจากรัฐบาล ภายใต้การนำของท่านจอมพลผ้าข้าวม้าแดง ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาวางแผนอย่างเคร่ง เครียดเพื่อที่จะเข้าปราบปรามกบถผีบุญ กลุ่มนี้ให้ประสบผลสำเร็จ

เช้าของวันสิ้นเดือนพอดี คือวันที่ 31 พฤษภาคม 2502 เจ้าหน้าที่อาจกระฉับกระเฉงเป็นพิเศษกว่าวันอื่นๆ แม้ว่าจะรู้สึกกังวลในสิ่งที่เกิดขึ้น กองกำลังกว่า 200 คน ภายใต้การนำของท่านพลจัตวามุข ศรีสมบูรณ์ ผู้กำกับการตำรวจภูธร ภาค 3 ได้นำกำลังทั้งหมด มุ่งหน้าไปสู่หมู่บ้านใหม่ไทยเจริญ อำเภอโชคชัย นครราชสีมา ตามแผนที่ได้ระดมความคิดจากเจ้าหน้าที่ที่วางไว้ แล้วเข้าล้อมแนวหมู่บ้านไว้
(ยังมีต่อ)
ดูเหมือนว่า "ความมั่นคงของรัฐบาลคณะปฏิวัติ" จะถูกทำให้มีเนื้อหา "ความมั่นคงของรัฐ" อีกครั้งหนึ่งแล้ว.


พิมพ์ครั้งแรก โลกวันนี้ ฉบับวันสุข 3-9 พฤษภาคม 2557
คอลัมน์ พายเรือในอ่าง ผู้เขียน อริน
ร่วมสนับสนุนการเขียนและเผยแพร่ความคิด และกิจกรรมได้โดยโอนเงินไปที่

บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัส วังหิน
ชื่อบัญชี วัฒนา สุขวัจน์
บัญชีเลขที่ 986-2-87758-8