Article  :  Political   :  Forum  :  Facebook  :  Youtube

วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2562

กบฏไพร่ กบฏชาวนาในสยาม-ไทย (55)

"กบฏหนองหมากแก้ว"
กบฏเจ้าผู้มีบุญ พ.ศ. 2467 (3)

 เครื่องแบบทหารในกองทัพแบบใหม่สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ซึ่งเริ่มขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5เครื่องแบบทหารสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2449) กองทหารม้า ค่ายหนองบัว จังหวัดนครราชสีมา [ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ]

"กบฏชาวนา" หรือ "กบฏไพร่" ทุกครั้งในประวัติศาสนตร์โลก ก่อกำเนิดขึ้นโดยอาศัยความคิดชี้นำหรือการ "ปลุกระดม" ราษฎรที่อิงศาสนาหรือคำทำนายเลื่อนลอย ซึ่งเป็นความคิดบนพื้นฐาน "จิตนิยม/ไสยศาสตร์/เทวนิยม" ทั้งนี้ โดยข้อจำกัดก่อนยุคที่วิทยาศาสตร์สังคมจะเป็นที่รู้จัก และสามารถส่งผ่านความรู้ลงสู่ผู้คนส่วนที่ก้าวหน้าที่สุดของสังคมหนึ่งใด นั่นคือ ก่อนถึงการเคลื่อนไหวที่มีลักษณะ "ปฏิวัติ" เพื่อเปลี่ยนผ่านระบอบ การลุกขึ้นสู้ทั้งมวลในประวัติศาสตร์จึงเป็นเพียงการเปลี่ยน "ผู้ปกครอง" ซึ่งหมายถึง "กษัตริย์ในระบอบศักดินาสวามิภักดิ์/จตุสดมภ์" หรือ "กษัตริย์หรือจักรพรรดิในระบอบราชาธิปไตย/สมบูรณาญาสิทธิราชย์" ซึ่งผลแพ้ชนะชี้ขาด เพียงแค่ "เปลี่ยนราชวงศ์" เท่านั้น และเมื่อพ่ายแพ้ต้องถูกพิพากษาลงทัณฑ์ด้วยข้อหา "กบฏ" และยังคงข้อหานี้จวบจนปัจจุบัน

ที่ผ่านมา กบฏชาวนาในภาคอิสานและภาคเหนือของรัฐไทย กลุ่มผู้ก่อการมักจะใช้อุดมการณ์ "พระศรีอาริย์" เป็นรากฐานในการระดมคน ซึ่งส่วนใหญ่คือราษฎรในชนบทที่เป็นชาวไร่ชาวนา และตกอยู่ในสถานภาพต่ำที่สุด (เมื่อไม่นับ "ทาส" ซึ่งมีสถานภาพเพียงเป็น "ทรัพย์" ของนายทาส) ในสังคมเกษตรกรรมเดิม

"ประวัติศาสตร์จังหวัดเลย" สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จาก เว็บไซต์ของจังหวัดเลย http://www.loei.go.th  เขียนถึงลำดับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม "เจ้าผู้มีบุญ" ต่อไปว่า
**********
คณะผีบุญซึ่งถือว่าตนเป็นผู้วิเศษได้กำหนดพิธีกรรมให้ชาวบ้านปฏิบัติ โดยถือเอาศาลาการเปรียญวัดบ้านหนองหมากแก้ว เป็นศูนย์กลางทุกวันในเวลาเช้าและเย็น ชาวบ้านทุกคนจะต้องมาร่วมเข้าพิธีสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำขาดไม่ได้ และในเวลากลางคืนทุกคืน บรรดาสาว ๆ หรือภรรยาของผู้ใดก็ตามที่มีใบหน้าและรูปร่างสวยงาม จะต้องอาบน้ำแต่งตัวให้สะอาดสดสวย แล้วนำพวงมาลัยดอกไม้สดและน้ำหอมผลัดกันเข้าไป มอบให้คณะผีบุญ ต่อจากนั้นก็จะเริ่มพิธีฟ้อนรำบวงสรวงเวียนพรมน้ำอบน้ำหอมไปรอบๆ ตัวของผีบุญ หากผีบุญเกิดพึงพอใจอิสตรีนางใดในวงฟ้อนบวงสรวง ก็จะใช้พวงมาลัยดอกไม้สดเกี่ยวปลายไม้แล้วยื่นไปคล้องคอเอาไว้ เป็นเครื่องหมายให้ทุกคนได้ทราบว่า อิสตรีนางนั้นได้รับโปรดปรานจากผีบุญเป็นพิเศษ และนับเป็นวาสนาเป็นอย่างยิ่งที่ในคืนนั้นจะต้องเข้าเวรปรนนิบัติ ปรากฏว่าบรรดาสาวและไม่สาวต่างแย่งกันปรนนิบัติผีบุญเหล่านี้เป็นพิเศษทุกคืน คณะผีบุญชุดนี้ได้บัญญัติกฎข้อบังคับเอาไว้ 3 ประการ ที่ชาวบ้านจะต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จะหลงลืมไม่ได้นั้น มีดังต่อไปนี้
1.จะต้องสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำทุกเช้าเย็น ขาดไม่ได้
2.จะต้องฟ้อนรำบวงสรวงคณะผู้มีบุญเป็นประจำทุกคืน ขาดไม่ได้
3.จะต้องหมั่นทำบุญให้ทานอยู่เป็นนิจ และจะต้องรำลึกถึงพระคุณของบิดา-มารดาอยู่เสมอทั้งนี้ในการเรียกพ่อ-แม่ดังที่เคยเรียกกันมาเฉย ๆ นั้นเป็นการไม่เคารพ จะต้องพากันเรียกเสียใหม่ว่า คุณพ่อคุณแม่
**********
สำหรับรายละเอียดในส่วนนี้ ในกระทู้ของบล็อก OKnation ของผู้ใช้ชื่อ "จอมมารกระบี่หัก" ซึ่งโพสต์บทความชื่อ "บ้านผมก็มีกบฏ" เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 โดยอ้างอิงที่มาจากบทความชุด "กบฎในสยามประเทศ (10)" ในเว็บบอร์ด http://www.lekpluto.org/history/rebellion/thairebellion_10.htm เขียนไว้ว่า
**********
กลุ่มผู้มีบุญนี้มี นายบุญมา จัตุรัส เป็นหัวหน้า เดิมนายบุญมาเป็นคนจังหวัดชัยภูมิ ได้เดินทางมาจังหวัดเลยพร้อมพระภิกษุรูปหนึ่ง อ้างตัวเป็นผู้มีบุญแล้วตั้งเป็นสำนักขึ้น บอกกับชาวบ้านว่าเป็นตัวแทนจากสวรรค์ที่ถูกส่งลงมาให้ช่วยป้องกันและปัดเป่าภัยพิบัติในเมืองมนุษย์ และให้ป่าวประกาศออกไปยังทุกคนทั่วทั้งหมู่บ้านและตำบลใกล้เคียงว่า จะมียักษ์ลงมากินคน ขอจงเชื่อฟังและปฏิบัติตนตามคำแนะนำของผู้มีบุญทุกประการ ก็จะพ้นภัยจากเหตุร้าย เมื่อทุกคนพ้นภัยแล้วผู้มีบุญก็จะพากันไปยังเมืองสวรรค์ ซึ่งที่นั้นไม่มีความทุกข์ ไม่มีความแก่ ความเจ็บ และความตาย

ในการนี้ได้มีผู้เข้ามาร่วมเป็นผู้มีบุญด้วยหลายคน แล้วต่างก็สถาปนาตนเองขึ้นเป็นผู้วิเศษ ที่เก่งกล้าด้วยวิชาอาคม ทำให้ผู้คนเกิดความเลื่อมใสเข้ามากราบไหว้บูชากันเนืองแน่น และยังมีข่าวลือแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วอีกว่า ผู้มีบุญสามารถเหาะเหินเดินอากาศ ล่องหนหายตัว อีกทั้งยังย่นย่อแผ่นดินที่ไกลให้ใกล้ หรือย่นระยะทางได้อีกด้วย ยิ่งทำให้ราษฎรตามเมืองต่าง ๆ ทั้งใกล้และไกลต่างแตกตื่นพากันมาขอความช่วยเหลือ ทั้งเสกเป่ารดน้ำมนต์พ่นน้ำหมาก ทาน้ำมัน สักเสกเลขยันต์คงกระพันชาตรี และเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บ คุณไสย์ บ้างก็ขอเครื่องรางของขลังไว้พกพา นับวันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากสิบเป็นร้อย จากร้อยเป็นพัน

พิธีกรรมของกลุ่มผู้มีบุญแห่งบ้านหนองบักแก้ว แต่ละคนต่างก็ผิดแผกแตกต่างกันไป เช่น การปลุกเสกน้ำมัน ให้ทั้งกินและอาบจะทำให้อยู่ยงคงกระพัน ทำตะกรุด ที่ใช้ตะกั่วจากลูกแหหาปลาลงอาคมกันภัย เอากล้วยพันธุ์ลูกเล็กร้อย ทำเป็นสังวาลย์ ไว้คล้องสะพายกันยักษ์ ทำผ้าประเจียดพันแขน ไว้สู้เมื่อมีศัตรูเข้ามา ยังมีผ้าที่ต้องทำพิธีลงยันต์ให้ขลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นราย ๆ ไป โดยผู้ที่ต้องการจะนำผ้าขาวขนาดเท่าฝ่าเท้าของเจ้าฝ่าตีนแดงผู้บริกรรมคาถา แล้วหมอบลงค่อย ๆ คลานไปแทบเท้า คลี่ผ้าออกปูกับพื้น ก้มหน้านิ่งอย่างสำรวม รอให้เจ้าฝ่าตีนแดงยกเท้าจุ่มลงไปในอ่างน้ำขมิ้น แล้วเอามาเหยียบลงบนผืนผ้าขาว เป็นอันเสร็จพิธี เจ้าของผ้าก็จะค่อย ๆ ม้วน ผ้าประทับรอยเท้า คลานถอยหลังออกมา แล้วนำผ้าผืนนั้นไปไว้บนหิ้งบูชา กราบเช้ากราบเย็น

นอกจากนี้ผู้ที่ทำตนเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ ก็จะมีการลงโทษผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด โดยวิธีขุดหลุมลึกแล้วนำตัวผู้ที่จะถูกลงโทษไปยืนปากหลุม จากนั้นก็จะแสดงบทบาทผู้มีวาจาสิทธิ์ด้วยการชี้มือไปที่หน้า กระทืบเท้าเปล่งคำสาปแช่งต่าง ๆ นานา ทันทีที่จบคำสาปก็ยกเท้าถีบผู้นั้นลงหลุม แล้วกลบดินฝังทั้งเป็น น่าสงสารคนโง่ผู้เคราะห์ร้ายรายนี้จริง ๆ

แต่กรรมวิธีที่ชาวบ้านที่โง่เขลา และหลงงมงายพากันชื่นชอบก็คือการพาไปขึ้นสวรรค์ ซึ่งจะจัดขึ้น ณ บริเวณลานกุฏิของผู้มีบุญ ตกค่ำก็จุดไฟสว่างไสวให้พวกผู้หญิงแต่งตัวสวยงามมาฟ้อนรำ หากผู้มีบุญโปรดปรานคนใด ก็เอาพวงมาลัยใส่ปลายไม้หย่อนลงไปคล้องคอหญิงสาวคนนั้น แล้วก็จะพาเข้าห้องปิดประตูทำพิธีเข้าญาณเพื่อนำทางไปขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น รุ่งเช้าหญิงสาวนั้นก็จะออกจากกุฏิมาหุงหาอาหารเลี้ยงผู้เป็นทูตแห่งสวรรค์
(ยังมีต่อ)
**********
สำหรับการลุกขึ้นสู้ในลักษณะกบฏชาวนานี้ มีตัวอย่างในประวัติศาสตร์จีนยุคใกล้เช่น กบฏพรรคดอกบัวขาว ที่ต้องการฟื้นฟูราชวงศ์ต้าหมิงถูกทำลายล้างสิ้นในปี พ.ศ. 2343, กบฏไท้เผ็ง (ไท้เผ็งเทียนกว๋อ) พ.ศ. 2392 (ถูกปราบมีคนตาย 20 ล้าน), กบฏนักมวย (สมาคมอี้เหอถวน) พ.ศ. 2441-2443 ทั้งหมดล้วนใช้ไสยศาสตร์นำ และถูกปราบราบคาบ.


พิมพ์ครั้งแรก โลกวันนี้ ฉบับวันสุข 31 สิงหาคม-6 กันยายน 2556
คอลัมน์ พายเรือในอ่าง ผู้เขียน อริน
ร่วมสนับสนุนการเขียนและเผยแพร่ความคิด และกิจกรรมได้โดยโอนเงินไปที่

บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัส วังหิน
ชื่อบัญชี วัฒนา สุขวัจน์
บัญชีเลขที่ 986-2-87758-8