อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crime against humanity) ได้แก่ การกระทำอันเป็นการบีฑาหรือโดยความป่าเถื่อนซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ร่างกายของมวลชน กับทั้งยังเป็นความผิดอาญาขั้นอุกฤษฎ์ในบรรดาความผิดอาญาทั้งปวงด้วย บันทึกหลักการและเหตุผลประกอบร่างธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศชี้แจงว่า "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติเป็นอาชญากรรมน่าสมเพชยิ่ง ด้วยว่าสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงให้แก่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้เกิดความรู้สึกอัปยศอดสูอย่างร้ายกาจ หรือทำให้ความเป็นมนุษย์ของบุคคลหนึ่งหรือหลายคนต้องเสื่อมถอยลง อาชญากรรมนี้มิได้เกิดขึ้นเฉพาะตัวหรืออย่างกระจัดกระจาย แต่เป็นผลหนึ่งจากนโยบายของรัฐ (ซึ่งถึงแม้ว่าผู้กระทำความผิดไม่จำเป็นต้องระบุว่าตนเกี่ยวข้องกับนโยบายนั้นอย่างไร) หรือการกระทำอันป่าเถื่อนซึ่งรัฐ ผู้มีอำนาจในทางพฤตินัยยอมรับหรือไม่เอาโทษ อย่างไรก็ดี การฆ่าคน การกำจัด การทรมาน การข่มขืน การบีฑาทางการเมือง ชาติพันธุ์ หรือศาสนา ตลอดจนการกระทำอย่างอื่นอันมีลักษณะเยี่ยงเดรัจฉาน จะเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติได้ เมื่อการเช่นว่านั้นเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง การกระทำเช่นว่าแม้จะเกิดขึ้นเฉพาะตัวแต่ก็อาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์"
การสังหารหมู่ (mass murder) หมายถึง การทำให้คนตายเป็นหมู่ในเวลาเดียวกันหรือไล่เลี่ยกัน โดยอาจเป็นการกระทำของบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลก็ได้ และหมายความรวมถึงการที่หน่วยงานของรัฐประหารคนเป็นหมู่โดยเจตนาและโดยการเลือกปฏิบัติ เช่น การยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่ปราศจากอาวุธ การทิ้งระเบิดแบบปูพรมเพื่อถล่มเมืองให้ราบเป็นหน้ากลอง การโยนระเบิดมือเข้าไปยังเรือนจำ หรือการประหารพลเรือนแบบสุ่มตัว การสังหารหมู่ยังอาจเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลที่มีความประสงค์จะทำให้คน ตายเพื่อปรนเปรออารมณ์หรือความเบิกบานแห่งตน การสังหารหมู่ครั้งใหญ่ตามที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ มักเป็นการกระทำเพื่อกวาดล้างกลุ่มชาติพันธุ์หรือกลุ่มศาสนา
ความผิดฐานสังหารหมู่เรียก การสังหารล้างเผ่าพันธุ์ (genocide) และในธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศเรียก อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crimes against humanity)
ความผิดฐานสังหารหมู่เรียก การสังหารล้างเผ่าพันธุ์ (genocide) และในธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศเรียก อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crimes against humanity)