Article  :  Political   :  Forum  :  Facebook  :  Youtube

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หากความหวังยังมี ก็อยู่ที่ประชาชน

หากความหวังยังมี ก็อยู่ที่ประชาชน


ช่วงใกล้เที่ยงคืนของวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 ผมพบข้อความนี้ใน Facebook

อานนท์ นำภา:
วันนี้มี ข่าวร้ายที่สุดของการเป็นทนาย ความของผม
มีชาวบ้านที่ภาคอีสานที่ถูกจับ ตาม พรก.รวมกัน 5 จังหวัดกว่า 200 คน
เขาไม่มีทนาย
เขาไม่ไว้ใจทนายที่ไม่เข้าใจเขา
...เรา มีทีมทนายความประมาณ 10 คนซึ่งไม่เพียงพอ
มันมีปัญหาซ้อนปัญหาที่ผมพยายามทำความเข้าใจมันอยู่
หลาย คดีกำลังทยอยขึ้นศาล
หลายคดีถูกเกลี้ยกล่อมให้สารภาพ
หลายคดี ชาวบ้านไม่รู้หนังสือก็เซ็นๆ ไป
ผมไม่ต้องการคำว่าสู้ๆๆ อีกแล้ว
ผมต้องการคำว่า "เราจะช่วยกันยังไงดี"


********************************

ผม เคยถามแกนนำ นปช. ส่วนกลางคนหนึ่ง ที่เป็นคนดีมากๆ ไร้จริตมารยา ไม่มีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากมีพี่น้องส่วนภูมิภาคในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือถูกจับข้อหาปิดถนน ตามที่ส่วนกลางชี้แนะไป ผมขอประกาศตรงนี้และเดี๋ยวนี้ว่า ค่าเช่าโฉนดไปประกันตัวสำหรับพี่น้องรากหญ้าชาวสิบกว่าคนนั้น คนละ 7,000 บาท : ไม่มี "หมา" สักตัวยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ หรือแม้แต่คำแนะนำช่องทางหรือให้กำลังใจ...

ไม่กี่วันมานี้ รับรู้มาว่าหลายกรณีของพี่น้อง "เสื้อแดง" รากหญ้าธรรมดาหรืออย่างมากก็เป็นแกนนำระดับชุมชน ซึ่งถูกควบคุมอยู่ตัวตาม "กฎ โจร" ที่ไม่ได้ผ่านการลงคะแนนเสียงรับรองเป็นกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรตามระบอบประชาธิปไตย ต้องเผชิญความยากลำบาก ที่เป็นเยาวชนก็มี เป็นนักศึกษาก็มี เป็นพี่น้องรากหญ้าก็มาก เมื่อบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากเครือข่ายของอดีตแกนนำก็ดี หรือผู้ใกล้ชิดนักการเมืองหรือนักการเมืองระดับนำในการระดมประชาชนมาชุมนุมก็ดี คำอธิบายคือ "ตอนนี้ขยับตัวไม่ได้" "ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้" "ถูกอายัดทุกอย่างหมดแล้ว"

ถึงตรงนี้ ผมไม่แคร์ว่าจะมีคนรังเกียจผมมากขึ้นหรือไม่ แต่ผมขอประกาศความรู่สึกว่าการสร้างประชาธิปไตย... ไม่ใช่แบบนี้

ผมเขียนข้อเสนอมาเป็นปีๆ โดยไม่ต้องการให้เกิดสภาพการณ์เช่นในช่วงที่ผ่านมาเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553... แต่เปล่าประโยชน์ และเมื่อถึงเวลา รากหญ้าต้องต่อสู้ดิ้นรนด้วยตัวของตัวเองเสมอมา....

สมัยพฤษภาทมิฬ ที่เรียกกันว่าม็อบมือถือ มีวีรชนจำนวนมากที่เสียสละในท้องถนนใส่รองเท้าฟองน้ำ แต่พวกที่ได้รับชัยชนะมีมือถือใส่รองเท้าหนังมียี่ห้อแทบจะทุกคน...  

และมันต่างอะไรกับช่วงสงกรานต์เลือด 13 เมษายน 2552 มันต่างอะไรกับกรณีสี่แยกคอกวัว 10 เมษายน 2553 และมันต่างอะไรกับกรณีนองเลือด 19 พฤษภาคม 2553 บ้าง

ถึงเวลานี้ สมควรแล้วหรือไม่ ที่จะยุติการเคลื่อนไหว "ซ่อนตรีน" ที่มีพื้นฐานกิจกรรมบันเทิง หรือเพลาๆกิจกรรมแบบคนชั้นกลางในเมืองลงบ้างได้แล้ว... เพื่อมุ่งไปสู่ประเด็นปัญหาในขอบเขตทั่วไปที่มีลักษณะเฉพาะหน้าอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกับที่ผมพยายามบอกให้ยุติการเคลื่อนไหวเพื่อแย่งอำนาจในการบริหารงบประมาณ โดยผ่านการเลือกตั้งภายใต้กรอบกติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้แล้ว

ผู้ นำการต่อสู้รุ่นแล้วรุ่นเล่า มัวสาละวนพายเรือในอ่างอยู่กับกรอบการต่อสู้ของ "ลัทธิรัฐธรรมนูญนิยม" และ "ลัทธิเลือกตั้งภายใต้กติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย" ในท่ามกลางการต้อสู้นั้น เกิดขั้วการเมืองขั้วแล้วขั้วเล่า ที่นำพาประชาชนรากหญ้าอันไพศาล ต่อสู้เพียงผลประโยชน์เฉพาะหน้า ที่อาจถูกแย่งยึดกลับไปในชั่วพริบตา ด้วยการทำรัฐประหารยึดอำนาจโดยพลังปฏิกิริยา ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตยชนิดสุดโต่ง

ในคำแถลงนี้ขอเรียกร้อง ให้ "ผู้นำเหล่านั้น" ที่ประกาศตัวอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตย จงตระหนักในการสร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ขึ้นในปิตุภูมิแห่งนี้ ยิ่งกว่าการนำพาประชามหาชนเดินวนเวียนอยู่แต่ในเขาวงกตแห่งชะตากรรม ที่อับจนเฝ้ารอและร้องขอการปลดปล่อยจากบนลงล่าง เยี่ยงบรรพบุรุษที่กล้ำกลืนฝืนทนมาช้านาน จากชั่วคนสู่ชั่วคน

เบื้องหน้าของประชาชาติไทย คือทางสามแพร่ง ซึ่งแพร่งหนึ่งคือเส้นทางของการก้าวพัฒนาไปสู่สังคมอารยะ ที่ประชามหาชนจะมีชีวิตอยู่ในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ทั้งทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และทางสังคมวัฒนธรรม กับอีกแพร่งหนึ่งคือการถดถอยกลับไปสู่ความไร้อารยะ ที่ผู้คนส่วนหนึ่งมีชีวิตอยู่ในระบบเผด็จอำนาจอย่างต่ำต้อยน้อยหน้า ไร้สิทธิไร้เสียง ปราศจากโอกาสที่จะได้สัมผัสเสรีภาพ ความเสมอภาค และความเป็นธรรม

และในท่ามกลางสถานการณ์ที่จำเป็นต้องเลือกนี้ ไม่มีทางที่ใครสักคนจะหลีกหนีไปจากวังวนแห่งการเปลี่ยนแปลงของมหายุคนี้ได้... ไม่ว่าใครทั้งนั้น หากการสร้างสรรค์ประชาธิปไตยนี้ จะปรากฏเป็นจริงขึ้นมาได้ในยุคสมัยของเรา ก็อยู่ที่พลังของเรานี่เอง ไม่ได้หล่นมาจากไหน ดังคำของอัจฉริยะในโลกภาพยนตร์ "ชาร์ลี แชปปลิน" ผู้ถูกข้อหาคอมมิวนสิต์จากรัฐบาลอเมริกันอยู่ถึง 30 ปี ที่ว่า

"หากความหวังยังมี ก็อยู่ที่ประชาชน."
ร่วมสนับสนุนการเขียนและเผยแพร่ความคิด และกิจกรรมได้โดยโอนเงินไปที่

บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัส วังหิน
ชื่อบัญชี วัฒนา สุขวัจน์
บัญชีเลขที่ 986-2-87758-8