Article  :  Political   :  Forum  :  Facebook  :  Youtube

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

"นักการเมืองอาชีพ"

"นักการเมืองอาชีพ"
คือ "คนที่มีอาชีพเล่นการเมือง"


มันอดใจไม่ได้น่ะครับ เห็นการอวยพรวันเกิดของ "นักการเมืองอาชีพ" กับ "นัก เลือกตั้ง"

แล้วการเมืองก็ "ถูก" มนุษย์เผ่าพันธุ์ที่ว่านี้ "เล่น" จน "กลวง" ไปหมด ที่สำคัญคือหลัง "รัดทำมะนูน" ที่ใช้เวลาร่างนานที่สุดในโลก คือ 2501 - 2511 เผ่าพันธุ์นี้เล่นกัน เริ่มที่ "ประชาธิปัตย์" กับ "สห ประชาไทย" ในการเลือกตั้ง 2512

หลัง "รัฐธรรมนูญ 2517" เราได้พรรคการเมือง 3 พรรคที่เข้ามา "ทำงานการเมือง" คือ พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย พรรคแนวร่วมสังคมนิยมแห่งประเทศไทย และ พรรคพลังใหม่ ซึ่งในที่สุด ถูก "ฆาตกรรม" หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เช่นเดียวกับ พรรคสหชีพ และ พรรคแนวรัฐธรรมนูญ ที่ถูกฆาตกรรมมาแล้ว ช่วงปี 2490 – 2495

"ผู้แทนปวงชน" ที่อาสาเข้ามา "ทำงานการเมือง" ในฐานะปากเสียงให้พี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ต้องถูกจำกัด ด้วย 3 วิธี (1) "ฆ่า" เช่น นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์, นายถวิล อุดล, นายจำลอง ดาวเรือง, ดร.ทองเปลว ชลภูมิ, นายเตียง ศิริขันธ์, ดร.บุญสนอง บุณโยทยาน (2) "ไล่" เช่น นาย ปรีดี พนมยงค์, พระยาพหลพลพยุหเสนา, พรายาทรงสุรเดช, พระยาฤทธิ์อัคนี และ ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (3) "กร่อน" คือกัดกร่อนละลายอุดมการณ์ให้มายืนในฝ่ายตรงข้ามประชาชน เช่น ยกตัวอย่างไม่ได้

เดี๋ยวนี้จับคนไปยิงทิ้งเหมือนสมัย ป.พิบูลสงคราม หรือ ยัดเยียดข้อหาคอมมิวนิสต์เพื่อนำตัวไปขึ้นตะแลงแกงเหมือนสมัย ส.ธนะรัชต์ หรือ ถ.กิตติขจร ไม่ได้แล้ว เพราะโลกมันอารยะเกินกว่าที่ "เผ่าพันธุ์หินชาติ" นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ จึงหันมาใช้กระบวนการประดิษฐ์ "สิ่งเทียมกฎหมาย" ขึ้นมาไว้ใช้งาน ผ่าน "องค์การลากตั้ง" ที่ร้อยโยงไว้ด้วย "โซ่ที่มองไม่เห็น" หรือเรียกง่ายๆว่า "ตุลาการวิบัติ" จัดการกวาดขยะไว้ใต้พรมแห่งการเผด็จอำนาจ

ทั้งหลายทั้ง ปวง คือ ประเทศนี้ยังไม่เข้าใกล้ "ประชาธิปไตย" ช่วง 2475 - 2489 หรือ 2517 - 2519 หรือ 2544 - 2549 สักกี่มากน้อย ไม่ว่าชื่อที่ "อุปโลกน์" เรียกจะเป็นอย่างไร เงื้อมเงาของการเผด็จอำนาจโดยกลุ่ม "อำมาตย์-อภิชน-ขุนศึกฟาสซิสต์" ยังคงครอบคลุมและครอบงำทุกกิจการการเมือง-การปกครอง ของประเทศที่อ้างเอาความเป็น "ศูนย์กลางพุทธศาสนา" หลังกึ่งพุทธกาล ทั้งๆที่ในปีนั้นเองที่เป็นการเถลิงอำนาจสำคัญของ "ระบอบเผด็จอำนาจ" ที่เข้มแข็งที่สุด นับจากการสิ้นสุดของ "ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์"

หนทางข้างหน้าของผู้รักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม จากนี้ไป คือทุ่มเทสรรพกำลัง "สร้างประชาธิปไตยสมบูรณ์" ที่เป็นประชาธิปไตยทั้งในทางการเมือง ในทางเศรษฐกิจ ในทางสังคมและวัฒนธรรม พร้อมกับการ "สร้างรัฐธรรมนูญประชาชน" ที่เป็นหลักประกัน "สิทธิตามธรรมชาติ" ของ พลเมืองทุกคน นั่นคือ การประกัน "สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และความเป็นธรรม"

ที่สำคัญและเป็นภารกิจเบื้องต้น เป็นภารกิจเฉพาะหน้า หากเป็นภารกิจยากเย็นแสนเข็นในการสร้างประชาธิปไตย คือต้องกำจัดทุกระบอบที่เป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตยไปให้พ้น ไม่ให้มีโอกาสงอกเงยฟื้นคืนขึ้นมาได้เป็นอันขาด นั่นคือการประกาศไว้เป็นเจตนารมณ์แห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย หรือในบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ที่ว่า "พลเมืองทุกคินมีสิทธิเสรีภาพในการลุกขึ้นต่อต้านการได้มาซึ่งอำนาจการปกครองที่ไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย"

คนรุ่นเราทั้งที่สวมเสื้อแดง หรือเสื้อสีอื่นทุกสี ที่กระโจนเข้าร่วมขบวนแถวประชาธิปไตยในรอบ 3 ปีมานี้ มีพันธกิจร่วมกัน ในการ "ต่อต้านการรัฐประหาร" "ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ" และ นำ "ประชาธิปไตย" มาสู่ปิตุภูมิให้จงได้ในช่วงชีวิตของเรา เราคงต้องตระหนักแก่ใจกันว่า ครั้งนี้การตื่นตัวในสำนึกประชาธิปไตยของพี่น้องประชามหาชน เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ซึ่งควรที่เราจะร่วมกันพิทักษ์และสืบทอดเจตนารมณ์ที่ผมขอใช้ว่า "เจตนารมณ์วีรชนประชาธิปไตยแห่งด่านดินแดง 13 เมษายน 2552" นี้เอาไว้ให้ได้

หากความหวังยังมี ก็อยู่ที่ประชาชนและประชาชนเท่านั้น

ด้วย ภราดรภาพ



โพสต์ครั้งแรก 19 สิงหาคม 2009, 19:04:18
http://www.newskythailand.info/board/index.php?topic=7157.0
http://arinwan.redthai.org/index.php?topic=112.0
ร่วมสนับสนุนการเขียนและเผยแพร่ความคิด และกิจกรรมได้โดยโอนเงินไปที่

บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัส วังหิน
ชื่อบัญชี วัฒนา สุขวัจน์
บัญชีเลขที่ 986-2-87758-8