18 พฤษภาคม คณะสมาชิกวุฒิสภาคือฟางเส้นสุดท้าย
สถานการณ์นับจากช่วงสายของวันที่ 18 พฤษภาคมยิ่งทวีความสับสนยิ่งขึ้น พร้อมกับข่าวการเข้าสลายการชุมนุมของ นปช. ที่มีออกมาเป็นระยะ ประกอบการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในฝ่ายผู้ชุมนุมและประชาชนอื่นๆจาก "กระสุนปริศนา" ตามที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวอ้างมาตลอด โดยที่แกนนำการชุมนุมที่เวทีแยกราษฎร์ประสงค์ได้ขึ้นปราศรัยต่อผู้ชุมนุม และส่งสัญญาณผ่านสื่อมวลชนที่เกาะติดสถานการณ์ไปยังรัฐบาลและผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการติดตามและควบคุมความสงบที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ ศอฉ. ทั้งนี้ ในเวลา 10:15 น. นพ.เหวง โตจิราการ ประกาศว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่มีแนวทางการสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใด โดยย้ำยืนยันคำนึงถึงความถูกต้องบนหลักการสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และแนวทางสันติวิธีซึ่งเป็นมติและเป็นแนวทางของการชุมนุม นปช. มาโดยตลอด
ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวของนักการเมืองในปีกพรรคร่วมรัฐบาล ก็เริ่มออกมาให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงจุดยืนและท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล เริ่มจากในเวลา11:30 น. นางพรทิวา นาคาศัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชัยนาท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แถลงยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่คิดถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ปฏิเสธกรณีมีการเคลื่อนไหวบีบพรรคร่วมรัฐบาล และให้ทบทวนการปฏิบัติต่อการชุมนุม ว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของบางบุคคลที่ไม่เกี่ยวกับมติและนโยบายของพรรคภูมิใจไทย จากนั้น ในเวลา 12:10 น. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเดิมสังกัดพรรคพลังประชาชนแต่ย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทยหลังคำวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชน ออกมาปฏิเสธข่าวความขัดแย้งกับพรรคประชาธิปไตย์ที่เป็นแกนนำรัฐบาล ย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดยังคงมีความเห็นร่วมกันต่อนโยบายการดำเนินการกับผู้ชุมนุมเสื้อแดง แต่ไม่มีแนวทางในการใช้ความรุนแรงให้ผู้ชุมนุมตาย-บาดเจ็บ โดยจะใช้การเจรจาเป็นแนวทางดีที่สุด ทั้งนี้แม้จะถูกถูกตราหน้าว่าเป็น "รัฐบาลมือเปื้อนเลือด" ก็ขอทำงานต่อ
12.00 น. พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกสรรหาวุฒิสภา แถลงข่าววุฒิสภาเตรียมการประสานงานเจรจา 2 ฝ่าย และต่อมาในเวลา 13:10 น. แถลงอีกครั้ง ยอมรับว่าการแก้วิกฤติขัดแย้งเป็นเรื่องยาก ระบุแนวทางทั้งสองฝ่ายไม่ตรงกัน เร่งประสานเพื่อหาทางยุติเหตุรุนแรง จนถึงเวลาประมาณ 15.00 น. คณะทำงานที่ประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภา 64 คน เรียกร้องรัฐบาลเข้าร่วมโต๊ะเจรจา แต่ยังไม่มีคำตอบ แม้ว่าทางด้าน นปช.ยอมรับประธานวุฒิสภาเป็นคนกลางแล้วก็ตาม โดยที่มีข่าวว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนกรานในที่ประชุม ครม.ว่า นปช.ต้องยุติการชุมนุมก่อน รัฐบาลจึงจะเปิดเจรจา
แต่ช่วงเวลาระหว่างความพยายามให้มีการเจรจาเพื่อยุติสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาล โดย ศอฉ. กับการชุมนุมคนเสื้อแดงโดย นปช. นั้นเอง 12:20 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แถลงข่าวว่ามีผู้ก่อการร้ายแฝงตัว ใช้อาวุธยิงใส่ผู้ชุมนุมหวังปั่นยอดผู้เสียชีวิต ทั้งยังระบุกลุ่มเสื้อแดงสร้างหลักฐานเพื่อสู้คดีบนเวทีนานาชาติ จากนั้นประกาศยืนยันเจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่ราชประสงค์เป็นมาตรการสุดท้าย
ในเวลา 12:35 น. คณะรัฐมนตรี มีมติประกาศหยุดราชการต่อ 3 วัน คือ 19-21 พฤษภาคม โดยให้อำนาจการตัดสินใจแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่มีหน้าที่ให้บริการประชาชน พิจารณาเปิดทำการหน่วยงานที่จำเป็น ทั้งนี้มติดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงธนาคารและรัฐวิสาหกิจ
สำหรับความเคลื่อนไหวระดับนานาชาติ ในเวลา 16.40 น. องค์การนิรโทษสากล ออกแถลงการณ์ให้ทหารไทยหยุดยิงประชาชนทันที โดยอ้างว่าจากหลักฐานที่ปรากฏชัดจำนวนมากว่าทหารได้ฆ่าประชาชนที่ปราศจากอาวุธ "สิ่ง นี้เป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน" "เป็นเรื่องยอมรับไม่ได้ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศที่อนุญาตให้การใช้อาวุธ ปืนเป็นมาตรการสุดท้าย"
จนถึงเวลา 20.10 น. เหตุการณ์ที่น่าจะนำไปสู่จุดเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานการณ์ตึงเครียดที่ส่อว่าอาจมีการใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมของมวลชนคนเสื้อแดงมาถึง เมื่อ คณะตัวแทนสมาชิกวุฒิสภา นำโดย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา พล.ต.ยุทธา ไทยภัคดี ส.ว.สรรหา นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี และนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ แถลงข่าวผลการหารือร่วมกับแกนนำนปช. โดย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวาณิช ได้ประกาศข้อเรียกร้องจากสมาชิกวุฒิสภา ดังนี้
- 1. อยากให้รัฐบาลปรับแนวของกองทัพให้ออกจากประชาชนเพื่อไม่ให้มีการปะทะ
- 2. เรียกร้องให้ทางกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยุติโดยเด็ดขาดการกระทำที่นำไปสู่การ ยั่วยุ การปะทะ การเสียเลือดของไม่ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
- 3. ให้สมาชิกวุฒิสภาเป็นตัวกลางประสานระหว่างนปช.และฝ่ายรัฐบาล เพือให้เกิดการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งต่างๆ
แกนนำทุกคนพร้อมที่จะให้มีการหยุดยิงทั่วกรุงเทพฯ เรียกร้องให้คนเสื้อแดงที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ที่ล้อมรอบสี่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่บริเวณบ่อนไก่ ศาลาแดง ลุมพินี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ดินแดง และแยกราชปรารภ เข้าสู่ขบวนการเจรจา หยุดความรุนแรงตั้งแต่นี้ไป และเรียกร้องผ่านประธานวุฒิสภาไปยังรัฐบาล ที่จะให้เจ้าหน้าที่ไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมในทุกกรณี ให้ทุกฝ่ายกลับไปสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง เข้าสู่กระบวนการเจรจาอีกครั้ง และยุติความขัดแย้งอย่างสันติ ซึ่งเป็นความเห็นของแกนนำทุกคน
ในระหว่างการประกาศข้อเรียกร้องดังกล่าวของคณะสมาชิกวุฒิสภา มีเสียงโห่ร้องของประชาชน ในเชิงไม่เห็นด้วยเนื่องจากไม่พอใจที่ข้อเรียกร้องบอกว่ารัฐบาลไม่ได้จงใจฆ่าประชาชน เกิดความวุ่นวายเล็กน้อย จนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต้องขึ้นเรียกร้องบนเวทีว่า "ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า การดำเนินการทั้งหมดจะไม่ดำเนินไปเพื่อชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ การดำเนินการทั้งหมดจะไม่มีการนิรโทษกรรมทุกๆ กรณี แต่การเจรจาทำไปเพื่อยุติความสุญเสีย ความรุนแรง ส่วนเรื่องคดีความจากทุกฝ่ายจะว่ากันไปตามข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน ฝ่ายเสื้อแดงถ้าผิดก็จะรับผิดชอบทุกกรณี แต่สิ่งใดที่นายอภิสิทธิ์ สุเทพ หรือส่วนงานใด ถ้าผิดก็ต้องรับผิดชอบทั้งในและต่างประเทศเช่นกัน" ถึงตรงนี้มีเสียงมวลชนในที่ชุมนุมโห่ร้องให้มีการยุบสภา ก่อนที่นายณัฐวุฒิ จะประกาศต่อไปว่า "การเจรจาจะไม่ใช่การไม่เอาผิดกับคนผิด แต่การเจรจาจะเป็นการยุติความสูญเสีย เราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้พี่น้องเจ็บเพิ่ม การหาความยุติธรรมให้กับคนตายเป็นเรื่องใหญ่ แต่เราต้องหยุดการฆ่าเสียก่อน การทวงถามความยุติธรรมให้กับพี่น้องเราจะหยุดไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ทุกอย่างยังต้องเดินหน้าต่อไป"
พิมพ์ครั้งแรก โลกวันนี้ ฉบับวันสุข วันที่ 16-22 กรกฎาคม 2554
คอลัมน์ พายเรือในอ่าง ผู้เขียน อริน