Article  :  Political   :  Forum  :  Facebook  :  Youtube

วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2563

กบฏไพร่ กบฏชาวนาในสยาม-ไทย (79)

"ปือแร ดุซงญอ"
กบฏหรือสงคราม (12)

จอมพลป. พิบูลสงครามที่กัมพูชา หลังการรัฐประหาร 2500 ที่ยืนซ้ายสุดคือ พล.ร.จ. ประสงค์ พิบูลสงคราม บุตรชายคนที่ 2

ในเว็บไซต์ http://www.dusongyo.com/ หัวข้อ "ทำไม?เรียกกบฏดุซงญอ" เรื่อง "ชาวบ้านกับเจ้าหน้ารัฐในเหตุการณ์ดุซงญอ" (อ้างอิงจาก: ปาตานี ประวัติศาสตร์และการเมืองในโลกมลายู อารีฟีน บินจิ,  อ.ลออแมน, ซูฮัยมีย์ อิสมาแอล หน้า 282-290) เขียนสรุปไว้ถึงการวิพากษ์วิจารณ์ของ เติงกูมะห์หมูด มะไฮยิดดีน หรือ ตวนกู (ตนกูหรือ เต็งกู) มะไฮยิดดิน อับดุลกาเดร์ บุตรของ ตวนกู อับดุลกาเดร์ กามารูดดีน รายาปัตตานีองค์สุดท้าย ถึงความไม่เชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาล ป. พิบูลสงคราม ในปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ และท่าทีต่อประชาชนเชื้อสายมลายู
**********
27 เมษายน 2491 เช้าวันนี้รองผู้บังคับการแฝดกับกำลังพลจากสงขลา ประมาณยี่สิบกว่าคนมาถึง(หมู่บ้าน)กลีซา หลังอาหารเช้าแล้วก็ได้จัดการแยกหน่วยเดินทางตามลำดับหน่วย พักกลางป่าแห่งนี่ จนถึงราว 13.00 น. ถึงควนสูงกลางป่าจวนจะออกทุ่งพวกเราได้ยินเสียงโห่ร้อง จึงตั้งแถวขยายตามที่จัดมา

พอตั้งเสร็จอย่างด่วน เสียงโห่ร้องใกล้เข้ามาและเห็นคนมาทางถนนประมาณ 30 คนเศษออกมายืนยันตรงถนนมองมาทางเรา พร้อมกันนี้ก็ได้ยินเสียงปืนฝ่ายจลาจนดัง 4-5 นัด รองผู้บังคับการแฝดสั่งยิงโต้ตอบไปบ้าง

ก็เห็นพวกมันตรงเข้ามาและเสียงปืนกระชั้นใกล้

พวกเราก็ยิงโต้ตอบไป พวกที่อยู่กลางถนนแทนที่จะดานหน้าเข้ามาอย่างวันแรกกลับตีโอบปีกขวาอย่างหนัก การต่อสู้ดำเนินไป 3 ชั่วโมงเศษ ท่านผู้ใหญ่เกรงว่าจะค่ำจึงสั่งถอย ในขณะที่กำลังถอยพวกแขกที่ตีโต้หนักทางขวามือได้ยิงถูก พลสมัครวิน ไกรเลิศ ตาย เพื่อนได้ช่วยหามไปและถอยไปรวมกันทั้งหมดที่(บ้าน)กลีซา

รอฟังคำสั่งอีก 2 วัน จึงได้ยกเข้ามายึดดุซงญอ โดยเหตุการณ์ ปกติ สืบทราบภายหลังว่าพวกแขกถอยตั้งแต่วันต่อสู้ครั้งหลัง

การต่อสู้ครั้งหลัง โดยมากพวกแขกซุ่มอยู่ตามในป่าและออกมาโอบตีปีกขวาอย่างหนักและเปิดเผยอาวุธของพวกมันมีทั้งปืนและดาบ ที่เขาว่าไม่มีปืนนั้นไม่จริง ตำรวจที่ตายเช่น พลสมัครวิน ไกรเลิศ ก็ถูกปืนที่หัว

พบกระสุนปืนคาร์ไบน์และปลอกกระสุนจำนวนมากในป่า ตำรวจไทยเสียชีวิตทั้งหมด 5 นาย บาดเจ็บ 1 นาย มลายูตายประมาณ 30 กว่าคน บาดเจ็บไม่ทราบจำนวน

ในบันทึกเหตุการณ์กบฏดุซงญอ ของวรมัย กบิลสิงห์ (เพิ่มเติม)

25 เมษายน 2491 จึงได้มีชาวไทยมุสลิมรวมกันราว 1,000คน เข้าจู่โจมกองกำลังตำรวจไทยใกล้ชายแดนรัฐกลันตัน

การปะทะเกิดขึ้นในเวลาเช้าอย่างรวดเร็วแบบแตกหัก ชาวไทยมุสลิมในหมู่บ้านดุซงญออันเป็นจุดปะทะกล่าวว่าตำรวจไทยเป็นฝ่ายยิงก่อนด้วยความระแวง เพราะไทยมุสลิมกลุ่มนั้นเพิ่งกลับมาจากมาเลเซีย

แท้จริงพวกเขากลับมาดุซงญอ เพราะเกรงตำรวจไทยเข้าใจผิดว่าเป็นโจรจีนคอมมิวนิสต์(จคม.)อาจไม่ปลอดภัย แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไรการเผชิญหน้าก็ได้ขยายตัวใหญ่อย่างรวดเร็ว

การปะทะกันเมื่อ 25 เมษายน 2491 นี้มีคนตาย 30 ถึง 100 คน ฯลฯ

26 เมษายน 2491 หน่วยรบพิเศษส่วนกลางได้รับการสนับสนุนจากเรือรบและเครื่องบินโจมตีอีก 3 ลำ ก็ยกพลพร้อมอาวุธปืนเข้ากวาดล้างชาวบ้านดูซงญอ จำนวนมากกว่า 100 คน และถูกปะทะตรึงไว้ด้วยคนที่นั้นราว 100 คน และฝ่ายตำรวจก็ถอนกำลังออกไปอีกครั้ง
และกลับมาอีกด้วยแผนเผด็จศึกก่อนรุ่งอรุณ

28 เมษายน 2491 ระหว่างที่ชาวไทยมุสลิมกำลังปฏิบัติศาสนกิจ ทำละหมาดก่อนตะวันขึ้น (ละหมาดซุบฮิ) ในสุเหร่าตือกอ... เสียงแห่งอำนาจจากรัฐ(เสียงปืน) ก็ดังกึกก้องไปทั้งดุซงญอและเนิ่นนาน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และสรุปว่า "โศกนาฏกรรมดุซงญอนั้นเกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแทรกแซงศาสนกิจอิสลาม"

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาเหตุการณ์ที่หมู่บ้านดุซงญอ ก็ถูกปกปิดหวังให้กาลเวลากลบกลืนไป.......

นายอับดุลซามัด อิบราฮิม (นายสมรรภ เอี่ยมวิโรจน์) สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรนราธิวาสได้ตั้งกระทู้ในสภาผู้แทนราษฏรโดยกล่าวว่า "ทางการตำรวจไทยได้ออกติดตามไล่ล่าประชาชนมุสลิมไม่น้อยกว่า 6,000 คน ต้องอพยพหลบหนีไปยังดินแดนมลายู (มาเลเซียปัจจุบัน) รวมทั้งโต๊ะครูฮาญีอับดุลเราะห์มานหรือโต๊ะเปรัค ด้วยถ้าพบปะประชาชนคนใดเดินทางกลับก็จะถูกจับกุมโดยกล่าวหาว่าร่วมก่อการกบฏเพื่อต่อต้านรัฐบาล"

จริงอยู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายนั้นเกิดจากข้อวิพากษ์วิจารณ์ จากสื่อในมลายู นอกจากนี้ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเติงกูมะห์หมูด มะไฮยิดดีน ว่า นโยบายดังกล่าวเป็นเพียงเศษกระดาษเท่านั้นหาได้มีการปฏิบัติจริงไม่ หนังสือพิมพ์หลายฉบับในสิงค์โปร์วิจารณ์ในลักษณะที่ไม่เชื่อมั่นในนโยบายของจอมพล ป. พิบูลสงคราม เนื่องจากท่านเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นผู้ที่มีอคติและต่อต้านชาวมลายู
**********
นอกจากนั้น ในเว็บไซต์เดียวกัน ยังเขียนบทสรุปโดยขยายความในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลไว้ในหัวข้อ "กบฏ? ดุซงญอ" ว่า:

สรุปได้ว่า สาเหตุของความขัดแย้งระหว่างเจ้าหนาที่รัฐกับประชาชนตำบลดุซงญอที่ทางราชการเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "กบฏดุซงญอ" นั้น เกิดจากการคุมคามของโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา

เมื่อประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้และเจ้าหน้าที่เข้าไปพบเห็น ชาวบ้านจึงเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่จะขัดขวางและทำลายพิธีกรรมดังกล่าว จึงขับไล่เจ้าหน้าที่ออกไปจากตำบลดุซงญอ เหตุการณ์บานปลายจนเกิดการปะทะต่อสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน ทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตหลายคน และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ประชาชนเกิดความหวาดระแวงต่อทางราชการจึงได้หลบหนีไปอยู่ที่อื่นจำนวนมาก มีเพียงชาวบ้านจำนวนหนึ่งอพยพกลับมาอยู่ที่บ้านตามปกติ หลังจากทางราชการให้การรับรองความปลอดภัย

รัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีนี้ มีผลสรุปของคณะกรรมการว่า "โศกนาฏกรรมดุซงญอนั้นเกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแทรกแซงกิจการศาสนาอิสลาม" กล่าวว่าคือ "การจลาจลเกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิด เนื่องจากมีการปะทะของชาวมลายูมุสลิมเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับไสยศาสตร์ คือพิธีอาบน้ำมนต์ที่เชื่อว่าทำให้อยู่คงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า เหตุการณ์นี้เป็นที่ผิดสังเกตของตำรวจ จึงขอเข้าระงับ แต่ชาวบ้านไม่ยอมจึงเกิดปะทะกัน ลุกลามใหญ่โตขึ้น" (อิมรอน มะลุลีม, "วิเคราะห์ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับมุสลิมมลายูภายในประเทศ", 2538)

อย่างไรก็ตามยังมีชาวบ้านที่ไปอยู่ในรัฐต่างๆของสหพันธรัฐมลายาอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้กลับภูมิลำเนาของตนหลายพันคน จนกลายเป็นพลเมืองของสหพันธรัฐมลายา ซึ่งก็คือประเทศมาเลเซียในเวลาต่อมา.

(ยังมีต่อ)



พิมพ์ครั้งแรก โลกวันนี้ ฉบับวันสุข 15-21 กุมภาพันธ์ 2557
คอลัมน์ พายเรือในอ่าง ผู้เขียน อริน
ร่วมสนับสนุนการเขียนและเผยแพร่ความคิด และกิจกรรมได้โดยโอนเงินไปที่

บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัส วังหิน
ชื่อบัญชี วัฒนา สุขวัจน์
บัญชีเลขที่ 986-2-87758-8